สารวัดวันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014

พี่น้องที่รัก

                งานฉลองวัดเซนต์หลุยส์ของเราปีนี้ ผ่านไปได้ด้วยดี ทุกอย่างราบรื่นสวยงาม ฝนฟ้าก็เป็นใจไม่โหมกระหน่ำตกลงมาให้เสียจังหวะ พิธีกรรมในวัดก็สง่างาม ท่ามกลางพี่น้องสัตบุรุษจำนวนมากที่มาร่วมพิธี ทั้งพี่น้องที่มาวัดของเราเป็นประจำและพี่น้องสัตบุรุษจากต่างวัด พ่อขอถือโอกาสนี้ขอบคุณพี่น้องอีกครั้งหนึ่ง ที่ได้มีส่วนร่วมในการจัดเตรียมงานฉลองวัดในทุกๆด้าน ภาพรวมที่ออกมาน่าชื่นใจ สะท้อนถึงหัวใจที่เป็นหนึ่งเดียวกันของเราทุกคนที่ปรารถนาจะแสดงออกถึงความเชื่อความศรัทธาของเราแต่ละคนออกมาให้ปรากฏเป็นรูปธรรมภายนอก เราได้มีโอกาสสรรเสริญพระเจ้าร่วมกัน เราได้มีโอกาสเทิดเกียรตินักบุญหลุยส์องค์อุปถัมภ์วัดของเราร่วมกัน เราได้มีโอกาสแบ่งปันความเชื่อความศรัทธาแก่กันและกันยังผลให้ความเชื่อความศรัทธาของเราเข้มแข็งยิ่งขึ้น เราได้มีโอกาสเสียสละคนละเล็กละน้อย ทั้งด้านกำลังกาย ด้านเวลา และด้านปัจจัยอื่นๆเพื่อทำให้งานฉลองวัดของเราเป็นไปอย่างสวยงาม น่าชื่นใจอีกคำรบหนึ่ง พ่อจึงอยากกล่าวคำว่าขอบคุณกับพี่น้องทุกท่านครับ

                อาทิตย์นี้พ่อเชิญชวนให้เราร่วมใจกันภาวนาเพื่อ พี่น้องคริสตชนของเราที่ต้องเผชิญกับการเบียดเบียนในประเทศอิรัก เขาเหล่านั้นกำลังเผชิญกับความยากลำบากอย่างยิ่ง เพราะสถานการณ์ในประเทศอิรักที่ยังคงคุกรุ่นด้วยไอสงคราม และ ความไม่สงบ คริสตชนที่นั่นถูกยื่นคำขาดให้เลือก หนทางใดหนทางหนึ่ง ในสามทางเลือกคือ อพยพออกจากที่นั่น หรือไม่ก็เปลี่ยนศาสนา ถ้าไม่เช่นนั้นก็ต้องถูกฆ่า เหตุการณ์ที่น่าสลดใจนี้ไม่สมควรที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าที่ไหนในโลกเลย เพราะเป็นการละเมิดต่อศักดิ์ศรีของมนุษย์อย่างรุนแรงที่สุด พระสันตะปาปาฟรังซิส เรียกร้องให้คาทอลิกทั่วโลกสวดภาวนาและทำพลีกรรมเพื่อวอนขอพระเจ้าโปรดบรรเทาความเดือดร้อนของเพื่อนพี่น้องคาทอลิกที่อิรัก และ พระองค์ขอให้เราร่วมใจกันบริจาคเพื่อหาทางช่วยเหลือเพื่อนพี่น้องที่ต้องเผชิญกับชะตากรรมที่น่าสงสารเช่นนี้ด้วย

คุณพ่อสุพจน์

ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ

(ต่อจากคราวที่แล้ว)

ทูตสวรรค์และพิธีบูชาขอบพระคุณ

                บันทึกการเผยแสดงของนักบุญ บริจิด มีระบุไว้ว่า "วันหนึ่งขณะที่ฉันไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ ฉันได้เห็นภาพนิมิตว่ามีเทวดาผู้ศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก ลอยลงมารวมตัวกันอยู่รอบๆพระแท่นบูชา ร่วมรำพึงไปกับคำภาวนาของพระสงฆ์ หมู่มวลเทวดาร้องเพลงสรรเสริญไพเราะจับใจฉัน ฉันเชื่อว่าฟ้าสวรรค์เองก็ร่วมรำพึงภาวนาไปด้วยกับการถวายบูชาที่ยิ่งใหญ่นี้ ส่วนเรานั้นเป็นเพียงสิ่งสร้างที่ต้อยต่ำน่าสงสารดวงตาบอดมืดที่คอยเฝ้าอยู่ในพิธีบูชาขอบพระคุณด้วยความซาบซึ้ง ชื่นชม และ ความรัก

                "โอ ถ้าพระเจ้าจะทรงเปิดตาของเรา เราคงจะได้เห็นมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่นี้"

                เมื่อบุญราศี เฮนรี ซูโซ นักบวชคณะดอมินิกันผู้ศักดิ์สิทธิ์ ประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณ เหล่าเทวดาหลายองค์ปรากฏมารอบๆพระแท่น เทวดาบางองค์ยังเข้ามาใกล้ท่านด้วยอิริยาบทที่เปี่ยมไปด้วยความรัก

                สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในทุกๆพิธีบูชาขอบพระคุณ แม้ว่าเราจะไม่เห็นด้วยตาของเรา  เราคาทอลิกเคยไหมที่จะตระหนักถึงความจริงที่น่าอัศจรรย์เหล่านี้ว่า ในพิธีบูชาขอบพระคุณทุกครั้งเรากำลังรวมภาวนาอยู่ท่ามกลางหมู่มวลเทวทูตของพระเจ้ามากมาย ......(ยังมีต่อ)

.......................................................................................................................

 อาทิตย์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา

พี่น้องที่รัก

พระวาจาวันนี้สอนเราว่า วิถีทางของพระเจ้า ไม่ใช่วิถีทางของเราแต่วิถีทางพระเจ้าเป็นวิถีทางที่ดีที่สุดสำหรับเราแต่ละคน ความทุกข์ยากลำบากฝ่ายจิตใจ ความกังวลใจ ความอึดอัดและคับข้องใจ ความโดดเดี่ยวและความรู้สึกเบื่อหน่าย เป็นสิ่งที่เราต้องพยายามยอมรับให้ได้ เพื่อทุกคนที่พระเจ้าทรงรัก แล้วเราจะพบว่าพระองค์ทรงรักเราอย่างแท้จริงความทุกข์ยากลำบากไม่ใช่สิ่งที่ชั่วร้ายเสมอไป เพราะในแผนการของพระเจ้า จะนำเราไปสู่ความสุขที่แท้จริง ความทุกข์ยากลำบากเรียกร้องธรรมล้ำลึกประการหนึ่งคือ บางสิ่งบางอย่างเราไม่สามารถเข้าใจได้หมด ความทุกข์ยากลำบากเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเรายิ่งใหญ่แค่ไหน จงมองดูที่กางเขนของพระองค์ กางเขนเป็นเครื่องทดสอบความรักที่เรามีพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ เพราะเราจะเต็มใจยอมรับความทุกข์ยากลำบากเพื่อคนอื่น ก็ต่อเมื่อเรามีความรักมากพอถึงขนาดที่จะยอมสละได้แม้กระทั่งชีวิตของตนเอง ถ้าผู้ใดอยากติดตามเรา ก็จงเลิกนึกถึงตนเอง แบกไม้กางเขนของตนและติดตามเรามา แผนการของพระบิดาเจ้าใช้กับศิษย์ทุกคนไม่เว้น ซึ่งรวมถึงพวกเราทุกคนด้วย สิ่งเหล่านี้แตกต่างจากมาตรฐานของมนุษย์อย่างสิ้นเชิง สุขที่แท้ของพระเจ้าได้มาจากความทุกข์ยากลำบาก ความชื่นชมที่แท้ของพระเจ้าได้มาจากความโศกเศร้าเสียใจ และชีวิตนิรันดรของพระเจ้าได้มาโดยการผ่านความตาย เจ้าไม่คิดอย่างพระเจ้า แต่คิดอย่างมนุษย์จึงไม่เข้าใจ เพราะมาตรฐานของมนุษย์ในการดำเนินชีวิตคือมุ่งหวังที่จะมีชีวิตที่สุขสบาย แสวงหาความมั่นคงและปลอดภัยสำหรับตนเองให้มากที่สุด ดูแลตัวเองให้ดีที่สุดและอย่าทำงานหนักจนเกินไป เงื่อนไขของการเข้าสวรรค์คือถ้าผู้ใดอยากติดตามเรา จงเลิกนึกถึงตัวเอง จงแบกไม้กางเขนของตนและติดตามเรามา ผู้ใดใคร่รักษาชีวิตของตนเองให้รอดพ้น ก็จะสูญเสียชีวิตนิรันดร ประโยชน์อันใดที่จะได้โลกทั้งโลกมาเป็นกรรมสิทธิ์ แต่ต้องเสียวิญญาณไป และจะเอาอะไรมาแลกเพื่อให้ได้กลับคืนมา สิ่งที่พระองค์ทรงเปิดเผยกับบรรดาศิษย์มาตลอดไม่ขนมหวาน แต่เป็นยาขม พระเจ้ามิทรงต้องการบูชาภายนอก แต่พระองค์ต้องการบูชาฝ่ายจิตที่เป็นทั้งชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าโดยการเปลี่ยนแปลงตนเองไม่คล้อยตามกระแสของโลก เปลี่ยนแปลงและฟื้นฟูชีวิตของตนเองใหม่เพื่อจะเรียนรู้พระประสงค์ของพระองค์ในชีวิตประจำวัน ให้เป็นที่พอพระทัยและสมบูรณ์พร้อมชัยชนะอันยิ่งใหญ่ไม่ใช่การถูกหวย ไม่ใช่โชคลาภ หรือการมีอำนาจมหาศาล เป็นเจ้าคนนายคน แต่เป็นการชนะตัวเองไม่ให้แพ้ต่อการล่อลวง เป็นสิ่งน่าขำที่เราดีแต่พูด แต่ทำไม่ได้ จนต้องบอกว่าตายแน่ๆ ชีวิตที่มีแต่ถูกเยาะเย้ยเพราะดีแต่เปลือก จงอย่าปล่อยให้ท่านอ่อนเปลี้ยไปเลย จงเข้ามาและไว้วางใจในพระองค์ และพยายามใช้ทุกส่วนของชีวิตปฏิบัติตนให้เป็นที่พอพระทัยของพระองค์เถิด ส่วนที่เหลือพระเจ้าจะทรงเติมเต็มเอง อย่ากังวลใจ ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ถ้าท่านมีความเชื่อแท้ ขอพระเจ้าอวยพรท่านให้มีสุขทุกประการในหนทางของพระองค์และตลอดไป

คุณพ่อพงษ์เกษม

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2014

พี่น้องที่รัก

                วันฉลองวัดเซนต์หลุยส์ของเราเวียนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่งแล้วครับ วันนี้เป็นวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งในรอบปีของวัดเรา เพราะนอกเหนือจากเป็นวันฉลองชุมชนแห่งความเชื่อ ณ วัดเซนต์หลุยส์แห่งนี้แล้ว ยังเป็นโอกาสให้เราได้หันมารำลึกถึงท่านนักบุญหลุยส์องค์อุปถัมภ์วัดของเราอีกด้วย ตามประวัติแล้ว ท่านนักบุญหลุยส์เป็นกษัตริย์ของประเทศฝรั่งเศส ในระหว่างปี ค.ศ. 1226 – 1270 มีนามว่า พระเจ้าหลุยส์ ที่ 9 ท่านได้ขึ้นครองราชย์สืบต่อจากพระราชบิดา ตั้งแต่ยังอยู่ในวัยเยาว์ คืออายุได้เพียง 11 ปีเท่านั้น ดังนั้นในระหว่างที่พระเจ้าหลุยส์ยังไม่พร้อมที่จะบริหารปกครองบ้านเมือง พระมารดาของพระองค์คือ พระนางบลองช์ แห่งกาสตีย์ ได้ทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทน เป็นเวลาประมาณ 10 ปี พระมารดาของกษัตริย์หลุยส์ที่ 9 เป็นผู้ยึดมั่นและศรัทธาในศาสนาอย่างแรงกล้า จึงให้การปลูกฝังอบรมกษัตริย์หลุยส์ให้เติบโตขึ้นในแนวทางของการครองตนในคำสอนของพระเจ้าอย่างเคร่งครัด ด้วยเหตุนี้กษัตริย์หลุยส์ที่ 9 จึงมีความโดดเด่นในด้านความสม่ำเสมอในการไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ การสวดภาวนา การทำกิจพลีกรรมใช้โทษบาป การช่วยเหลือผู้ยากจน การเอาใจใส่คนเจ็บป่วย การจัดสร้างโรงพยาบาลเพื่อบำบัดรักษาคนเจ็บป่วย คนตาบอด นางคณิกา ผู้ป่วยโรคเรื้อน ได้รับการอภิบาลดูแล นอกจากนี้ยังอุทิศตนทำหน้าที่เป็นผู้นำทัพไปกอบกู้แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์อย่างกล้าหาญอีกด้วย ด้วยชีวิตอันโดดเด่นในความดีงามเช่นนี้เอง ที่พระศาสนจักรโดยพระสันตะปาปาโบนิฟาส ที่ 8 ประกาศสถาปนากษัตริย์หลุยส์ ที่ 9 ให้อยู่ในทำเนียบของนักบุญ ในปี ค.ศ. 1297 จะเห็นได้ว่าชีวิตของนักบุญหลุยส์ ตรงกับคำพังเพยของไทยที่ว่า “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” คือผู้เป็นแม่หมั่นเพียร ปลูกฝังอบรมลูกอย่างไร ก็ได้ผลดีตามความพากเพียรเช่นนั้น น่าชื่นใจแทนพระนางบลองช์ แห่งกาสตีย์ พระมารดาของกษัตริย์หลุยส์ ที่แม้จะไม่ได้มีชีวิตอยู่จนเห็นผลสำเร็จอันงดงามของชีวิตของลูกชายที่เจริญรอยตามคำสั่งสอนของแม่ก็จริงอยู่ แต่พระนางก็คงได้รับรู้โดยญาณวิถีว่า ลูกชายของพระนางที่นอกเหนือจะครองราชย์เป็นกษัตริย์ปกครองประเทศฝรั่งเศสแล้ว ยังคงยึดมั่นในการเจริญชีวิตตามคำอบรมสั่งสอนของแม่จนบรรลุถึงการได้รับการยกย่องว่าเป็นนักบุญของพระศาสนจักรคาทอลิกอีกด้วย ข้อคิดนี้น่าจะเป็นกำลังใจให้เหล่าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดทายาทสืบสายโลหิตของตน มีความมุมานะไม่ย่อท้อในการทำหน้าที่ปลูกฝังเลือดเนื้อเชื้อไขของตนให้เป็นคนดีอยู่ในศีลในพรของพระเจ้าเสมอ เพราะสิ่งนี้แหละที่จะนำความภาคภูมิใจอย่างสูงมาสู่ตนในยามที่อายุก้าวเข้าสู่ความชราภาพในที่สุด

                การจัดงานฉลองวัดเซนต์หลุยส์ของเราในปีนี้สำเร็จได้ก็เพราะความร่วมมือร่วมใจของพี่น้องสัตบุรุษทุกท่าน พ่อถือโอกาสนี้ขอแสดงความขอบคุณมายัง คณะกรรมการสภาภิบาลวัดของเรา คณะกิจกรรมองค์กรของวัดทุกคณะ และสัตบุรุษผู้มีน้ำใจดีทุกท่าน ที่ได้เสียสละ ร่วมมือร่วมใจกันเพื่อให้ภารกิจสำคัญยิ่งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ขอท่านนักบุญหลุยส์โปรดวิงวอนพระเจ้าเพื่อพี่น้องทุกท่านจะได้รับการปกปัก พิทักษ์รักษาจากพระองค์ ให้ประสบแต่ความสุขความเจริญและอยู่ในศีลในพรของพระองค์เสมอไป

คุณพ่อ สุพจน์

............................................................................................................................

พี่น้องที่รัก

      จงเรียนรู้ที่จะมีชีวิตนิรันดรกับพระเจ้า ทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้น จะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร ชีวิตคุณได้รับชีวิตนิรันดรแล้วหรือ? ในพระคัมภีร์ได้แสดงให้เห็นถึงวิถีทางไปสู่ชีวิตนิรันดรอย่างชัดเจนว่า เพราะมนุษย์ได้กระทำบาปต่อพระเจ้า และเสื่อมในพระสิริของพระเจ้า เราได้กระทำบาปหลายสิ่งหลายอย่าง ทำให้พระเจ้าเสียพระทัย ซึ่งทำให้เราสมควรได้รับโทษของบาปนั้น และเนื่องจากความผิดบาปของเราที่เป็นสิ่งทำให้ตัวเราอยู่ตรงข้ามกับพระเจ้าผู้ทรงเป็นอยู่นิรันดร เพราะค่าจ้างของบาปคือความตาย แต่ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดรในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พระเยซูคริสต์เป็นผู้บริสุทธิ์ปราศจากบาป แต่เสด็จลงมาเป็นมนุษย์มารับบาปของมนุษย์ ด้วยการยอมทนทุกข์ทรมาน สิ้นพระชนม์บนกางเขนเพื่อไถ่บาปเรา ทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เรามนุษย์ในขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่ ทรงรับโทษแทนเราทุกคน แล้วเราจะตอบคำถามได้ไหมว่า พระองค์เป็นใครสำหรับชีวิตของเราจริงๆ พระผู้ช่วยให้รอดที่เราควรอธิษฐานภาวนาเสมอๆในชีวิต เพราะภารกิจแห่งความรอดอยู่ในชีวิตของพระองค์ ความรอดนี้กระทำด้วยความต่ำต้อยสุภาพและไม่เรียกร้องสิ่งใดๆเลย ก็เพื่อมิให้ใครโอ้อวดตนเองได้ แต่ต้องเป็นการหมั่นขอบพระคุณพระเป็นเจ้าตลอดทั้งชีวิตของเรา ในชีวิตของเราพระเจ้าทรงช่วยเรากี่ครั้งแล้วจำได้ไหม? สำหรับเราพระเยซูเจ้าเป็นใครในชีวิตของเรา เพราะเมื่อเราทำบาป เราได้เข้ามาขอแก้บาปบ่อยๆ เป็นพระองค์เองที่ทรงยกบาปของเรา และเมื่อเราได้เข้ามาร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณก็เป็นพระองค์เองที่ทรงประทับอยู่ในศีลมหาสนิทที่เราเข้าไปรับ ทำให้ชีวิตของเราร่วมชิดสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ ที่สามารถเผชิญอุปสรรคต่างๆในชีวิต ชนะการประจญ ความชั่วร้ายต่างๆในชีวิตประจำวัน และทำให้เราเป็นบุตรของพระเจ้าที่ปฏิบัติตามน้ำพระทัยของพระองค์ เพราะทุกสิ่งที่ดีงามล้วนมาจากพระองค์ทั้งสิ้น เพราะทางที่จะนำไปสู่ชีวิตนิรันดรนั้นมีเพียงทางเดียวคือการมีความเชื่อในภารกิจของพระคริสต์บนไม้กางเขน ชีวิตของเราซึ่งเป็นคริสตชนจึงเป็นการแสดงความเชื่อและไว้วางใจในพระเจ้า และวิธีง่ายๆที่ช่วยเราให้รอดจากโทษของบาป ก็คือการหมั่นมาร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณพระเจ้าเสมอๆ ที่พระองค์ทรงไถ่คุณให้พ้นจากอำนาจของบาป “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้ายินดีหันหลังให้กับบาปทั้งปวงของข้าพเจ้า และมอบความไว้วางใจในพระองค์สำหรับการไถ่ข้าพเจ้าให้พ้นจากบาป และขอขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระคุณอันยิ่งใหญ่ และการให้อภัยจากพระองค์ ซึ่งเป็นของขวัญแห่งชีวิตนิรันดร ขอพระนามของพระองค์จงได้รับการสรรเสริญในองค์พระเยซูคริสต์ตลอดไปด้วยเทอญ อาแมน”

คุณพ่อพงษ์เกษม

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม 2014

พี่น้องที่รัก

                เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วัดเซนต์หลุยส์ของเราได้มีโอกาสต้อนรับพระธาตุนักบุญพระสันตะปาปา บิดาที่แสนดีทั้งสองพระองค์ ซึ่งได้แก่พระธาตุนักบุญยอห์นที่ 23 พระสันตะปาปา และ นักบุญ ยอห์นปอล ที่ 2 พระสันตะปาปา พ่อได้เห็นความเชื่อศรัทธาอันงดงามของพี่น้องที่เข้ามาถวายนมัสการสักการะพระธาตุกันอย่างพร้อมหน้า ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ขอท่านนักบุญทั้งสองโปรดวิงวอนพระเมตตาจากพระเจ้า เพื่อพี่น้องทุกท่านด้วยเทอญ

                ในอาทิตย์สัปดาห์นี้เป็นวันสมโภชพระนางมารีย์เสด็จสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ พ่อขอเชิญชวนพี่น้องอีกครั้งหนึ่งให้เรามาร่วมใจกันถวายเกียรติแด่พระนางมารีย์แม่พระของเรา และฝากชีวิต วิญญาณ และ ครอบครัวของเราไว้ในการปกปักษ์พิทักษ์รักษาของพระนาง เราจะร่วมใจกันถวายพระเกียรติแด่พระนางด้วยดอกไม้ช่องามจากใจของเราที่เปี่ยมไปด้วยความยกย่องเทิดทูนในแบบอย่างที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เราทุกคนพึงดำเนินตาม

คุณพ่อสุพจน์

ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ

(ต่อจากคราวที่แล้ว)

ทูตสวรรค์และพิธีบูชาขอบพระคุณ

นักบุญ เกรโกรี

                "ฟ้าสวรรค์เปิดออก บรรดาทูตสวรรค์จำนวนมากมายหลั่งไหลลงมา ช่วยเป็นสักขีพยานในพิธีบูชาขอบพระคุณ"

นักบุญออกัสติน

                "หมู่มวลทูตสวรรค์ลงมาล้อมรอบพระสงฆ์ และ ช่วยเหลือพระสงฆ์ในเวลาที่พระสงฆ์ประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณ"

นักบุญ ยอห์น คริสซอสตอม

                "ในเวลาที่พระสงฆ์ประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณ มีเหล่าทูตสวรรค์จำนวนมากมายเหลือคณานับมาชุมนุมอยู่ในวัด เพื่อถวายนมัสการแด่เครื่องบูชาศักดิ์สิทธิ์ที่นำมามอบถวายแด่พระเจ้า ณ พระแท่นบูชา"

                ประสิทธิผลของพิธีบูชาขอบพระคุณช่างมากมายเสียจริง เพราะพระเมตตาและพระทัยดีของพระเจ้านั้นอเนกอนันต์ คงไม่มีช่วงเวลาใดๆที่มีคุณค่าเทียบเทียมได้ เพราะในเวลานั้นพระเยซูเจ้าทรงมาประสูติอีกครั้งบนพระแท่นบูชา ดังนั้นสิ่งใดๆที่เราทูลขอเราน่าจะได้รับเป็นแน่แท้

                เหล่าทูตสวรรค์ทราบเรื่องเหล่านี้ดี จึงพร้อมใจกันมาพร้อมหน้ากันเพื่อถวายนมัสการแด่พระเจ้า เพื่อถวายคำทูลขอแด่พระองค์ในโมงยามแห่งพระเมตตานี้  

(ยังมีต่อ)

................................................................................................................................................

           

พี่น้องที่รัก

ช่างเป็นเกียรติอันสูงส่งที่หญิงผู้หนึ่งได้รับยกขึ้นสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ การฉลองแม่พระในพระศาสนจักรสมัยก่อนสังคายนาสากลที่เมืองเอเฟซัส ปี ค.ศ. 431 กระทำในแบบเดียวกับการฉลองนักบุญมรณสักขีที่พลีชีพเพื่อเห็นแก่ความเชื่อซึ่งบรรดาคริสตชนในสมัยแรกให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ต่อมาภายหลังพิธีกรรมของพระศาสนจักรได้พัฒนาไปเป็นวันฉลองการนอนหลับซึ่งเชื่อกันว่าแม่พระไม่ได้ตาย เพียงแต่นอนหลับสนิทและได้รับการยกขึ้นสวรรค์สู่อ้อมพระหัตถ์ของพระเจ้าในสภาพดังกล่าว (Dormitio) ต่อมาจักรพรรดิ Maurizio 582-620 ได้กำหนดให้ฉลองแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ในวันที่ 15 สิงหาคม ทั่วอาณาจักรไบเซนทิน และไม่นานก็ได้กลายเป็นวันที่ฉลองกันทั่วไป รวมถึงพระศาสนจักรตะวันตกด้วย ศตวรรษที่ 18 พระสันตะปาปาอาดรีอาโนที่ 1 ได้เปลี่ยนการฉลองการนอนหลับของแม่พระ เป็นการฉลองการรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ (Assuption) พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ได้ประกาศข้อความเชื่อเรื่องการรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์แก่โลกในวันที่ 1 พฤศจิกายน 1950 ว่า “พระนางมารีย์ มารดาพระเจ้าผู้ปฎิสนธินิรมลและเป็นพรหมจารีเสมอ ได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ หลังจากบรรลุถึงความสมบูรณ์ของชีวิตในโลกนี้”  เพราะแม่พระได้ร่วมส่วนในชีวิตนิรันดรกับพระเยซูเจ้าในฐานะแม่ของพระบุตร และยังมีส่วนในผลแรกแห่งการกลับคืนชีพของพระบุตรฐานะมารดาของพระเจ้า (Theotokos) คือได้มีส่วนในงานไถ่กู้ของพระผู้ไถ่ตั้งแต่เริ่มแรก บทบาทในการแจกจ่ายพระหรรษทานของพระเจ้าและความหวังของมนุษยชาติ พระคริสตเจ้าจึงไม่ทรงประสงค์ให้ร่างกายของแม่พระที่ปราศจากบาปต้องเน่าเปื่อยหลังความตาย ถือเป็นการยกย่องหญิงคนที่ยากจนและถูกกดขี่ที่พระเจ้าทรงเลือกให้บรรลุถึงความศักดิ์สิทธิ์ ด้วยบทเพลงสรรเสริญของแม่พระ(Magnificat)พระเจ้าทรงให้ความสำคัญกับคนยากจน คนเล็กน้อย และคนสิ้นหวังเป็นอันดับแรกเสมอ และพระสิริรุ่งโรจน์แห่งการประทับของพระองค์ในโลกปรากฏชัดในบุคคลเหล่านี้ เราจึงมิอาจปล่อยตัวหลงระเริงไปกับกระแสของโลกได้ ต้องเป็นหนึ่งเดียวที่บริบูรณ์กับพระเจ้า และร่างกายของเราเป็นที่รักของพระเจ้าที่จะต้องมีเป้าหมายว่าจะได้รับเกียรติรุ่งโรจน์ กลายเป็นร่างกายใหม่ที่สดใสสวยงามแม้จะชราหรือประสบความทุกข์ระทมต่างๆ หนทางแห่งความเชื่อของการรับใช้พระเจ้าด้วยการน้อมรับแผนการและน้ำพระทัยของพระเจ้าในชีวิตเสมอด้วยความสรรพพร้อมของเรา และการที่แม่พระขึ้นสวรรค์เป็นภาพของพระศาสนจักร ประชากรของพระเจ้าที่ชนะบาปและความตาย พ้นทุกข์จากโลกเพื่อได้ไปเสวยสุขกับพระเจ้า ด้วยการเจริญตามรอยชีวิตของแม่พระด้วยการฟังและปฏิบัติตามจนถึงที่สุด ขอให้ชาวเราได้เดินตามรอยพระแม่  เพื่อสักวันจะได้บรรลุถึงสวรรค์เช่นกันด้วย

คุณพ่อพงษ์เกษม

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม 2014

พี่น้องที่รัก

                วันอาทิตย์นี้วัดเซนต์หลุยส์ได้รับเกียรติอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้ต้อนรับพระธาตุนักบุญยอห์นที่ 23 และ พระธาตุนักบุญยอห์นปอลที่2 พระสันตะปาปา ในวัดของเรา นามของพระสันตะปาปาผู้ล่วงลับทั้งสองพึ่งจะได้รับการประกาศจากพระศาสนจักรสากลให้จารึกอยู่ในสารบบของนักบุญโดยพระสันตะปาปาฟรังซิสที่กรุงโรมเมื่อเร็วๆนี้ ดังนั้นวันนี้พี่น้องจะมีโอกาสได้ถวายสักการะ ภาวนาวอนขอ และ มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับพระธาตุของท่านนักบุญทั้งสองอย่างใกล้ชิด ซึ่งน่าจะเตือนใจเราทุกคนให้หันมามองเป้าหมายสูงสุดของการเกิดมาของเราคริสตชนแต่ละคน นั่นคือการก้าวเดินมุ่งหน้าไปยังเมืองสวรรค์ ขอท่านนักบุญทั้งสองโปรดอ้อนวอนพระเจ้า เพื่อเราแต่ละคนจะได้บรรลุถึงเป้าหมายนี้ในที่สุด เพื่อเราจะเป็นหนึ่งในบรรดาผู้รับเลือกสรรของพระเจ้าที่มีโอกาสได้ชื่นชมพระสิริมงคลอันรุ่งเรืองของพระองค์ตลอดนิรันดรพร้อมกับบรรดานักบุญทั้งหลายด้วย

พ่อสุพจน์

ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ

(ต่อจากคราวที่แล้ว)

นักบุญทั้งหลายยกย่องพิธีบูชาขอบพระคุณอย่างสูงส่ง

                ข้อความต่อไปนี้เป็นการรวบรวม คำยกย่องสรรเสริญของบรรดานักบุญทั้งหลายที่มีต่อพิธีบูชาขอบพระคุณ

               

นักบุญ ลอเรนซ์ จัสติเนียน

                "ถ้อยคำภาษามนุษย์ไม่สามารถกล่าวถึงคุณประโยชน์ยิ่งใหญ่และพระพรมากมายที่เราได้รับจากพิธีบูชาขอบพระคุณได้หมดสิ้น คนบาปได้รับการอภัย คนดีบรรลุถึงคุณความดีที่สูงส่งยิ่งขึ้น ความขาดตกบกพร่องของเราได้รับการปรับปรุงแก้ไข ปมแห่งพฤติกรรมของเรามนุษย์ที่ผิดหลงไปจากความดีงามได้รับการขุดรากถอนโคนออกเสีย"

ฟอร์เนรีอุส

                "การไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณด้วยความศรัทธา และ อยู่ในฐานะพระหรรษทาน ทำให้เรามนุษย์ได้รับประโยชน์และความโปรดปรานจากพระเจ้ามากกว่า การออกเดินทางไปแสวงบุญเป็นระยะทางไกลๆและใช้เวลายาวนานเสียอีก"

นักบุญ อัลฟองโซ

                "เหตุผลที่ว่าทำไมพิธีบูชาขอบพระคุณถึงมีคุณค่าสูงส่งยิ่งนักนั้น เพราะพิธีบูชาขอบพระคุณมีคุณค่าเอนกอนันต์ เหลือคณานับ ในขณะที่ คำภาวนา คุณความดีทั้งหมดของเหล่าเทวดา และ นักบุญทั้งหลาย  แม้ว่าจะมีคุณค่าสูงส่ง และ เสริมพระสิริมงคลของพระเจ้าอย่างมากมายก็ตาม แต่คุณงามความดีเหล่านั้นก็ยังมีขอบเขตจำกัด ด้วยเหตุนี้สิ่งเหล่านั้นจึงไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับพิธีบูชาขอบพระคุณที่มีพระคุณเอนกอนันต์เพียงพิธีเดียวเลย

                ถ้าจะเปรียบเทียบแล้วก็เหมือนกับว่า สิ่งสร้างของพระเจ้าทั้งมวล ทั้งในสวรรค์และบนแผ่นดิน ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว ภูเขา ทะเล มวลมนุษย์ เทวดา ไม่มีสิ่งใดที่จะมาเทียบเทียมกับพระเจ้าได้ ดังนั้นเราจึงกล่าวได้ว่า คุณความดีใดๆที่ว่าศักดิ์สิทธิ์สูงส่งแค่ไหน ก็ไม่เทียบเทียมเท่ากับพิธีบูชาขอบพระคุณได้ เพราะ พิธีบูชาขอบพระคุณนั้นคือองค์พระผู้ทรงเป็นเจ้าเอง" 

 (ยังมีต่อ)

.................................................................................................

 สวัสดีพี่น้องที่รัก

อาทิตย์ที่ 19 เทศกาลธรรมดา

“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าและพระเจ้าของเรา พระองค์ทรงสมควรที่จะได้รับพระสิริพระเกียรติและเดชานุภาพ เพราะพระองค์ได้ทรงสร้างสรรพสิ่ง และโดยพระดำริสิ่งเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นและเป็นอยู่ตามชอบพระทัยของพระองค์”(วว.4:11) ข้าแต่พระเจ้า ขอได้ทรงโปรดทวีความเชื่อแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายด้วยเถิด ชีวิตของเราที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคนานาชนิด สิ่งที่สำคัญคือความเชื่อในชีวิตของเรา “คนที่ใจเย็น” จะมีลักษณะอย่างหนึ่งคือ “นิ่ง” การนิ่งไม่ใช่การอยู่เฉย แต่เป็นการนิ่งสงบและอธิษฐานกับพระเจ้า ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าที่เพียรรอคอย การนิ่งและอธิษฐานและไว้วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงเป็นคุณสมบัติที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังมากกว่าการพูดมากๆเสียอีก ขอย้ำว่า มิใช่เป็นคุณสมบัติธรรมดา แต่เป็นคุณสมบัติที่ยิ่งใหญ่ ตอนที่ถูกทำร้าย ถูกเขากดขี่ข่มเหง เฆี่ยนตีและทรมาน แต่ไม่เคยทรงปริปากบ่นเลย เขาถูกนำตัวไปเหมือนลูกแกะที่ถูกนำไปฆ่า เหมือนแกะที่เงียบอยู่ต่อหน้าคนตัดขน โดยที่เขาไม่เคยปริปากบ่นเลย คุณสมบัติของคนที่มีความเชื่อ นิ่งเมื่อไม่เข้าใจกัน เพราะความวุ่นวาย การปรักปรำ กล่าวโทษ จากคนที่มีนิสัยที่ชอบเข้าใจผิด คิดเล็กคิดน้อย ชวนทะเลาะ ใส่ร้ายป้ายสี เป็นกิจการของมาร (รม. 1:29-31)การต่อสู้กับกิจการของมาร เราต้องใช้ความดีของพระเจ้าต่อสู้ อย่าพ่ายแพ้แก่ความชั่ว แต่จงชนะความชั่วด้วยความดี บางครั้งเราต้องปล่อยให้เขาปรักปรำ ใส่ร้าย ปล่อยให้เขาข่มเหง ปล่อยให้เขาทำร้าย โดยใช้ความนิ่งเข้าต่อสู้ ใช้ความอ่อนโยนเข้าต่อสู้ความก้าวร้าว สิ่งที่อ่อนโยนสามารถบดขยี้กระดูกได้ ใช้ความไว้วางใจสยบความวิตกกังวล ใช้การไว้วางใจในพระสัญญาของพระเจ้าปราบสงสัย เพราะตามปกติของมนุษย์ในเนื้อหนัง เมื่อถูกทำร้าย ก็มักจะหาทางแก้แค้น และสาปแช่งคนที่ทำร้าย และเมื่อถูกใส่ร้ายป้ายสี ถูกเขาดูถูกเหยียดหยาม ก็จะรู้สึกโกรธและพูดถึงข้อเสียของอีกฝ่ายเพื่อเป็นการทำลายเขาหรือเอาคืน จงอย่าตอบแทนการร้ายด้วยการร้าย แต่ให้เราตอบแทนการร้ายด้วยความดี ชนะกิจการของมารด้วยกิจการของพระจิตเจ้า ชนะความเกลียดด้วยความรัก ชนะความสงสัยด้วยความเชื่อ จงระลึกเสมอว่า "มีอะไรที่ให้ผมรับใช้อีกไหมครับ" ชีวิตเป็นของมีค่าเพราะพระองค์ทรงรักเรามนุษย์ ไม่ใช่เราเพราะมนุษย์รักพระ ชีวิตของเราแขวนอยู่กับพระเจ้า ฉะนั้นจงมั่นใจในความรักของพระองค์ ชีวิตของเราจะมีค่าหรือไม่มีค่าขึ้นอยู่กับการยอมรับของตน พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นพละกำลังของข้าพเจ้า ทรงเป็นความช่วยเหลือในยามยากลำบากเสมอ ความกลัวคือศัตรูที่บ่อนทำลายความเชื่อ ดุจพายุซัด คลื่นลมแรง โคลงเคลง “ทำใจให้ดีไว้ เป็นเราเอง อย่ากลัวเลย” หรืออีกนัยหนึ่ง “จงนิ่ง และรู้เสียเถอะว่า เราคือพระเจ้า อย่ากลัวเลย” ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงความเชื่อได้ เราจึงต้องวิงวอนขอความเชื่อทุกวันเวลา เพื่อจะได้มีชีวิตเหมือนพระองค์ ไม่หวั่นไหวเลย

                                                                                                                        คพ.พงษ์เกษม

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2014

พี่น้องที่รัก

                การเทศน์เตรียมจิตใจสัตบุรุษสำหรับการฉลองนักบุญหลุยส์องค์อุปถัมภ์วัดของเราในปีนี้ จะเริ่มในสัปดาห์นี้ คือ อาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม ซึ่งตามเราเคยปฏิบัติกันมานั้น การเทศน์เตรียมจิตใจจะเริ่มขึ้น 3 สัปดาห์ก่อนถึงวันฉลองวัด ตามที่พ่อได้เคยประชาสัมพันธ์กับพี่น้องแล้ว

                ทั้งนี้ในปีนี้ การเทศน์เตรียมจิตใจสัตบุรุษจะมีเพียงมิสซารอบ 10.00 น. เท่านั้น ในมิสซาวันอาทิตย์รอบอื่นๆก็จะเป็นพระสงฆ์ในวัดของเราที่จะทำหน้าที่เทศน์เตรียมจิตใจพี่น้องตามปกติครับ

                อีกเรื่องหนึ่งที่พ่อขอประชาสัมพันธ์คือ ในวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม ขอเรียนเชิญพี่น้องมาถวายสักการะพระธาตุนักบุญพระสันตะปาปายอห์น ที่ 23 และ พระธาตุนักบุญพระสันตะปาปา ยอห์นปอล ที่ 2ที่วัดของเรา พิธีต้อนรับพระธาตุเข้าสู่วัดของเราจะมีขึ้น ก่อนพิธีมิสซารอบ 6.00 น. ของวันอาทิตย์ดังกล่าว โดยเริ่มต้นด้วยการแห่พระธาตุของท่านนักบุญทั้งสองจากบ้านพักพระสงฆ์มายังวัดของเรา และพระธาตุของท่านนักบุญทั้งสอง จะอยู่ที่วัดของเราตลอดวันอาทิตย์ดังกล่าว เพื่อให้พี่น้องสัตบุรุษจะได้มาถวายสักการะและวอนขอพระพรพิเศษจากท่านนักบุญทั้งสอง ดังนั้นพ่อขอเชิญชวนพี่น้องที่สามารถมาร่วมพิธีในมิสซารอบ 06.00 น. ของเช้าวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคมได้ มาร่วมพิธีมิสซาในรอบดังกล่าวให้มากขึ้นเนื่องจากมิสซาเช้ามักมีพี่น้องมาร่วมพิธีไม่มากนักคือประมาณเพียงร้อยคนเศษเท่านั้น เพื่อเราจะต้อนรับพระธาตุของท่านนักบุญทั้งสองอย่างสมเกียรติเท่าที่เป็นไปได้ อีกทั้งพี่น้องจะได้ไม่แออัดกันมากนักในมิสซารอบอื่นๆที่จะมีพี่น้องสัตบุรุษมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก และ การจูบ การถวายคารวะพระธาตุนั้นจะมีขึ้นหลังจากพิธีมิสซาจบแล้วในทุกรอบมิสซาของวันอาทิตย์ดังกล่าวครับ

พ่อสุพจน์

ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ

(ต่อจากคราวที่แล้ว)

นักบุญทั้งหลายยกย่องพิธีบูชาขอบพระคุณอย่างสูงส่ง

                ข้อความต่อไปนี้เป็นการรวบรวม คำยกย่องสรรเสริญของบรรดานักบุญทั้งหลายที่มีต่อพิธีบูชาขอบพระคุณ

นักบุญ ลอเรนซ์ จัสติเนียน

                "ไม่มีคำภาวนาไหน หรือ กิจการดีใดๆที่ยิ่งใหญ่ไปกว่า หรือเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า หรือมีคุณประโยชน์ต่อเรามากเท่ากับพิธีบูชาขอบพระคุณ"

นักบุญโทมัส

                "พิธีบูชาขอบพระคุณมีคุณค่าเท่าเทียมกับ การถวายบูชาบนไม้กางเขนที่ภูเขากัลวารีโอ ที่ได้รับการรื้อฟื้นขึ้นถวายใหม่บนพระแท่น พิธีบูชาขอบพระคุณนำผลดีมาสู่ชาวเราเท่าเทียมกับบูชาบนไม้กางเขน"

นักบุญ ยอห์น คริสซอสตอม

                "พิธีบูชาขอบพระคุณ มีคุณค่าสูงส่งเท่ากับพิธีบูชาที่เขากัลวารีโอ"

นักบุญโบนาเวนตูรา

                "พิธีบูชาขอบพระคุณคือศูนย์รวมแห่งความรักของพระเจ้า และ ความโปรดปรานของพระองค์ที่มีต่อมนุษย์เรา ในพิธีบูชาขอบพระคุณทุกพิธี โลกของเราได้รับผลบุญไม่น้อยไปกว่าที่เคยได้รับมาในการมาบังเกิดขององค์พระผู้ไถ่ในครั้งกระโน้น"

นักบุญเฮนอน พระสังฆราชแห่โคโลญจ์

                ครั้งหนึ่งท่านได้รับนิมิต แห่งรังสีความเรืองรองปรากฏอยู่รอบถ้วยกาลิสก์ในระหว่างการเสกศีลแล้วความรุ่งเรืองสุกใสนั้นก็หลั่งไหลเข้าสู่ถ้วยกาลิสก์นั้น เวลานั้นท่านเต็มเปี่ยมไปด้วยความตกตะลึงพรึงเพริด จนไม่กล้าที่จะดำเนินพิธีต่อเนื่องไป แต่พระเจ้าก็เผยแสดงให้ท่านทราบว่า สิ่งนี้เกิดขึ้นในทุกพิธีบูชาขอบพระคุณ แม้ว่าจะไม่ปรากฏต่อสายตาของมนุษย์เรา ศีลมหาสนิทไม่ใช่สิ่งอื่นใด แต่เป็นองค์พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพสถิตนิรันดร ผู้เปี่ยมด้วยพระสิริรุ่งโรจน์เรืองรองในฟ้าสวรรค์ ทำไมเราจึงไม่ตระหนักถึงความจริงประการนี้เล่า ?

นักบุญ โอโดแห่งคลูนี่

                "ความสุขของโลกนั้นมาจากการถวายบูชาในพิธีบูชาขอบพระคุณ" 

(ยังมีต่อ)

 ...........................................................................................................................

สวัสดีพี่น้องที่รัก

เราเริ่มต้นอาทิตย์แรกของเดือนสิงหาคม เตรียมจิตใจฉลองวัดของเรา อาทิตย์ที่ 18 เทศกาลธรรมดา และตระหนักถึงวันสื่อมวลชนด้วย เราได้ยินบ่อยๆว่าของฟรีไม่มีในโลก และของที่ดีมักมีราคาแพงมาก ปาฏิหาริย์แท้เริ่มต้นจากหัวใจที่ได้สัมผัสกับความรัก และพระเมตตาของพระก่อน ก็หากเราสังเกตดูสายตาของพี่น้องที่มาวัด จะเห็นว่าพวกเขาแสดงอาการของความกระหาย ภายใต้สายตานั้นแฝงด้วยคำภาวนาที่กำลังเข้ามาร้องขอหลายสิ่งหลายอย่างจากพระเจ้า และจะเห็นเด่นชัดตอนที่พระสงฆ์ชู “แผ่นปัง” และ “เหล้าองุ่น” ท่านทั้งหลายที่กระหายจงมาดื่ม แม้ผู้ไม่มีเงิน จงมาเถิด มาดื่มและกินโดยไม่ต้องเสียเงิน หลายครั้งที่เราเสียเงินไปกับสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร และยิ่งวันก็ยิ่งทุกข์หนักมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเบี้ยตัวแตก ลุกลามจนกลายเป็นหนี้ท่วมหัว

      ทำไมเราคริสตชนจึงมีความหวังในขณะที่ต้องเผชิญกับความทุกข์ยากในหลายสิ่งหลายอย่าง ก็เพราะพวกเขาพึ่งในองค์พระเจ้าผู้ทรงพระทัยดี หวังว่าพระเจ้าจะทรงสดับรับฟัง ทรงพระเมตตาและตอบรับความช่วยเหลือของพวกเขาทั้งหลายที่กำลังเป็นทุกข์ สิ่งที่สำคัญคือการกล้าทูลขอและมั่นใจที่จะเข้ามาพึ่งพระเจ้า และเป็นพระองค์เองที่ทรงเชื้อเชิญเรา ให้เข้ามาหาพระองค์ ยิ่งกว่านั้นแม้ในขณะที่พระองค์ทรงเศร้าเพราะการตายของยอห์น แบบติส แต่พระองค์ก็ยังคงพระทัยดี ไม่จมอยู่ในความโศกเศร้า พระองค์ก็ยังทรงทวีขนมปังห้าก้อน และปลาสองตัวเลี้ยงพวกเขาที่เข้ามาฟังพระวาจาของพระองค์ นักบุญเปาโลยังได้เสริมอีกว่า “ไม่มีใครจะมาพรากเราจากความรักของพระคริสตเจ้าได้ ความทุกข์ลำเค็ญหรือ การขาดอาหารและเครื่องนุ่งห่มหรือ ภยันตรายและคมดาบหรือ การทดลองทั้งหมดนี้ เราชนะได้อาศัยพระเจ้าผู้ทรงรักเรา ชนะได้แม้กระทั่งความตาย” แล้วพี่น้องจะกลัวอะไรไปทำไมกัน หากพี่น้องมีความเชื่อในพระเจ้า ชีวิตสมาชิกในครอบครัวรักพระเจ้า เพื่อนๆรอบข้างรับรู้ถึงความรักของพระเจ้าในชีวิตจริง โลกรับรู้ถึงพระเมตตาของพระเจ้า ฉะนั้นจงเงี่ยหูมาหาพระเจ้าเถิด จงฟังเสียงของพระเจ้า และปฏิบัติตาม เพื่อจะมีชีวิต ท่านจะได้กินสิ่งที่ดีๆ ลิ้มรสอาหารอร่อยชั้นเลิศ แสงสว่างของพระเจ้าทำให้ท่านพบทาง รับการรักษาเยียวยา และเลี้ยงดูจากพระเจ้าจนอิ่มหนำ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้า สาย บ่าย เย็น และค่ำ ท่านจะมีชีวิตอย่างอุดมในพระเจ้าอย่างแท้จริง ก็เพราะพระเจ้าทรงรักท่านทุกคนมากล้นเหลือหาที่สุดมิได้จริงๆ

                                                                                                                        คพ.พงษ์เกษม