สวัสดีครับพี่น้องที่รัก
วันนี้พระศาสนจักรสมโภชนักบุญเปโตร
และ นักบุญเปาโล ผู้เป็นประดุจเสาหลักที่คอยค้ำจุนพระศาสนจักรทั้งสองท่าน
นักบุญเปโตรเป็นผู้ที่มีบทบาทดำเนินชีวิตอยู่ใกล้ชิดกับพระเยซูเจ้า
ในทุกๆเหตุการณ์สำคัญๆของพระเยซู ท่านมักจะอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆเสมอ
เปโตรไม่ใช่บุคคลที่ดีแบบไม่มีข้อตำหนิบกพร่อง ท่านทำสิ่งที่พลั้งพลาดหลายอย่าง
แต่ท่านก็น้อมรับและแก้ไขจุดบกพร่องที่ท่านมี
ที่สุดท่านก็ได้รับความไว้วางใจจากพระเยซูมอบพระศาสนจักรให้ท่านเป็นผู้ดูแลสืบต่อจากพระองค์
ส่วนนักบุญเปาโล อย่างที่เราทราบๆกันดีว่า
ท่านเป็นบุคคลที่เคยเบียดเบียนพระศาสนจักร แต่ภายหลังท่านได้เปลี่ยนแปลงชีวิต
หันหลังให้กับหนทางเดิม และกลับกลายมาเป็นอัครสาวกผู้มีใจร้อนรนที่สุดคนหนึ่ง
ออกเดินทางไปประกาศข่าวดีและคำสอนของพระเยซูในดินแดนที่ห่างไกลจากเยรูซาเล็มออกไป
อัครสาวกทั้งสองท่านจึงเป็นบุคคลที่สำคัญอย่างยิ่งในยุคที่พระศาสนจักรเริ่มก่อร่างสร้างตัวขึ้นมา
ด้วยเหตุนี้พระศาสนจักรจึงจัดวันฉลองให้กับท่านทั้งสองในวันเดียวกัน
เพื่อให้เกียรติกับผู้นำพระศาสนจักรทั้งสอง
เพื่อให้เห็นบทบาทของการดูแลปกครองพระศาสนจักรให้เป็นปึกแผ่นของนักบุญเปโตร และ
เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญของการเผยแผ่พระศาสนจักรให้กว้างขวางออกไปของนักบุญเปาโล
วันนี้พระศาสนจักรคาทอลิกทั่วโลกยังจัดพิธีถวายบูชาขอบพระคุณเพื่อฉลองพระสมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปาอีกด้วย
ทั้งนี้เพราะพระสันตะปาปาคือผู้นำพระศาสนจักรของพระเจ้าบนแผ่นดินนี้ วันนี้พ่อจึงขอเชิญชวนพี่น้องทุกท่าน ภาวนาเพื่อสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสเป็นพิเศษเพื่อให้ท่านเปี่ยมไปด้วยพระปรีชาญาณของพระจิตเจ้า
ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง จะได้ปฏิบัติพันธกิจต่างๆของพระองค์
ในการประกาศข่าวดีแห่งความรอดพ้น นำมวลมนุษย์ไปสู่ความดีสมบูรณ์
ในหนทางแห่งความรัก และ ความเป็นหนึ่งเดียวกัน
คุณพ่อสุพจน์
.....................................................................................................................
เราเชื่ออะไร
ทำไมจึงเรียกพระศาสนจักรว่าสืบต่อจากอัครสาวก
พระศาสนจักรได้รับเรียกว่าสืบต่อจากอัครสาวก
เพราะพระศาสนจักรได้รับการก่อตั้งขึ้นโดยบรรดาอัครสาวก
ยึดมั่นในธรรมประเพณีของพวกท่าน และปกครองโดยผู้สืบตำแหน่งต่อจากพวกท่าน
พระเยซูเจ้าทรงมีศิษย์มากมายอยู่ล้อมรอบพระองค์
ทั้งชายและหญิง ในแวดวงคนเหล่านี้ พระองค์ทรงเลือกชายสิบสองคน ซึ่งเรียกว่าอัครสาวก
มาเป็นผู้ร่วมงานที่ใกล้ชิดที่สุดของพระองค์ แล้วฝึกฝนพวกท่านอย่างเป็นพิเศษ
มอบความไว้วางใจในภาระหน้าที่ต่างๆ ให้
บรรดาอัครสาวกยังกลายเป็นประจักษ์พยานถึงการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า
หลังจากที่ทรง กลับคืนพระชนมชีพแล้ว พระองค์ทรงปรากฏพระองค์แก่พวกท่านหลายครั้ง
ทรงมอบพระจิตเจ้าให้
และทรงส่งพวกท่านออกไปทั่วโลกเพื่อเป็นประจักษ์พยานถึงตัวพระองค์
บรรดาอัครสาวกได้สานต่อพันธกิจของพระเยซูเจ้า
หลังจากที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์แล้ว พวกท่านได้มอบพันธกิจ
และอำนาจแก่ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพวกท่าน คือบรรดาพระสังฆราชโดยการปกมือ
กระบวนการนี้เรียกว่า การสืบต่อจากอัครสาวก ในปัจจุบัน
ผู้สืบทอดตำแหน่งบรรดาอัครสาวกได้ใช้อำนาจที่พระเยซูเจ้าทรงมอบให้ ในการปกครอง
สั่งสอน และประกอบพิธีกรรม ความร่วมมือกันของบรรดาอัครสาวกกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเอกภาพของพระศาสนจักร
(สืบจากบรรดาอัครสาวก)
พระเยซูเจ้าทรงมอบอำนาจพิเศษให้เปโตร
“ท่านคือศิลา และบนศิลานี้เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา” (มธ 16:18) บทบาทหน้าที่พิเศษของนักบุญเปโตรในท่ามกลางบรรดาอัครสาวกนี้เอง
จึงได้พัฒนากลายมาเป็นหน้าที่ศาสนบริกรของพระสันตะปาปา ผู้ถือเป็นดัง
“ผู้แทนของพระคริสตเจ้าในโลกนี้” มีอำนาจสูงสุดในการอภิบาล
และทรงมีอำนาจการตัดสินสูงสุดในเรื่องความเชื่อและศีลธรรม
“ตั้งแต่แรกเริ่ม
กลุ่มคริสตชนในกรุงโรม ถูกมองว่าเป็นพระศาสนจักรที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุด ได้รับการก่อตั้ง
และบริหารจัดการโดยอัครสาวกผู้มีชื่อเสียงมากที่สุดสองท่านคือ เปโตร และเปาโล...
ด้วยเหตุที่พระศาสนจักรแห่งกรุงโรม มีต้นกำเนิดอันสูงส่ง พระศาสนจักรทุกแห่ง
จึงต้องเห็นพ้องกับพระศาสนจักรแห่งกรุงโรม
และในพระศาสนจักรนี้เองที่สัตบุรุษทุกหนแห่ง จะได้บำรุงรักษาธรรมประเพณีของบรรดาอัครสาวกไว้”
(นักบุญอิเรเนอุส
แห่งลีออง)