สารวัดวันอาทิตย์ที่
27 ตุลาคม2019
สัปดาห์ที่
30 เทศกาลธรรมดา
พี่น้องที่รัก...
วันพฤหัสบดีที่ 31
ตุลาคมส่งท้ายเดือนแม่พระ ก่อนเริ่มมิสซาเย็น 17.00 น.สวดสายประคำ
และต่อด้วยมิสซาเวลา 17.30
น.หลังมิสซาแห่รูปแม่พระรอบวัดและจบลงด้วยพิธีเสกถ้ำแม่พระบริเวณสนามหญ้าของวัดเพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจการสวดสายประคำพร้อมเพรียงกันในโอกาสฉลองสมณลิขิต
100 ปีการแพร่ธรรมของพระสันตะปาปาเบเนดิกที่ 15
หลังจากนั้นคงเป็นความศรัทธาส่วนตัวสวดภาวนาตามอัธยาศรัย
อาทิตย์นี้ 10.00 น.พระสงฆ์คณะคามิลเลียนถวายมิสซางานธรรมทูตเพื่อผู้พิการภาคใต้
สรุปเดือนนี้ทั้งเดือนเราได้มีส่วนร่วมเพื่องานธรรมทูตทุกรูปแบบทั้งการสวด
ทำงาน ถวายปัจจัย มากน้อยตามกำลังและความสามารถ
พระเจ้าวินิจฉัยเอง
ใครสนใจของที่ระลึกการเสด็จเยือนประเทศไทยของพระสันตะปาปาและสามารถใช้งานได้
กระเป๋าใบละ 300 บาท เสื้อคอปกสีเหลืองขาว 300 บาท คอกลม 200 บาทและหมวก 100 บาท
จำหน่ายบริเวณสนามหญ้าข้างวัด รายได้เพื่องานรับเสด็จพระสันตะปาปา
ระยะนี้ขอให้พี่น้องติดตามการประชาสัมพันธ์และส่งข่าวที่เป็นปัจจุบัน
เพราะหลายคนตกข่าวและรายงานข่าวที่ช้ามากๆและถูกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ควรแจ้งเวลาที่รับและยืนยันข่าวจากแหล่งที่ได้มาเพื่อจะเข้าใจได้ถูกต้องและตรงกัน บางท่านเพิ่งทราบว่ามีการลงทะเบียน
บางท่านก็ก้าวย่างอย่างรวดเร็วจนไม่รู้รับข่าวมาจากไหนกลายเป็นข่างลือไป จึงขอแจ้งให้ทราบว่าเมื่อไรจะทำอะไรต่อไปขอให้รอการประชาสัมพันธ์จากทางวัดโดยสารวัดและคุณพ่อเจ้าวัดแจ้งในวัดช่วงการประชาสัมพันธ์
หากติดขัดให้ตามจากเจ้าหน้าที่ของทางวัดในวันธรรมดา
ส่วนวันเสาร์เย็นและอาทิตย์ทั้งวันขอให้เป็นเรื่องการอภิบาลสัตบุรุษเรื่องวิญญาณทั่วไปดีกว่า
แบ่งๆกันจะได้ไม่เบียดเบียนเวลาเพื่อสัตบุรุษบางท่านที่ต้องการเอาใส่เรื่องจิตใจเป็นสำคัญ
เดือนพฤศจิกายน
“โปรดระลึกถึงผู้ล่วงลับ”วันเสาร์ที่ 2 มิสซาเช้า 6.00 น.มิสซารับพระคุณการุณย์บริบูรณ์เพื่อผู้ล่วงลับครั้งที่
1 เนื่องจากเย็นวันเสาร์ที่ 2 เป็นมิสซาวันพระเจ้าจึงเลือนไปทำมิสซารับพระคุณการุณย์เพื่อผู้ล่วงลับมิสซาที่
2 และ 3 ในวันจันทร์ที่ 4 เวลา 17.30
น.และ19.00 น.มิสซาใน เวลา 19.00
น.วัดเซนต์หลุยส์ทำมิสซาเพื่อผู้ล่วงลับทั่วไป เชิญนำรูปบรรดาผู้ล่วงลับสวยงามไม่ใหญ่เกินขนาดกระดาษเอสี่(A4)เพื่อระลึกถึงเขาเถิด
และตลอดสัปดาห์ตั้งแต่ 2 ถึงวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน
สามารถภาวนาเพื่อผู้ล่วงลับได้ที่สุสานหรือภายในวัด
เพื่อการรับพระคุณการุณย์สำหรับผู้ล่วงลับ โดยร่วมมิสซาอย่างดี
แก้บาปรับศีลและสวดภาวนาตามพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปา
ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า ข้าแต่พระบิดา วันทามารีย์และพระสิริรุ่งโรจน์
ครั้งเดียว การรับพระคุณการุณย์ฯนี้สามารถรับได้วันละหนึ่งครั้งภายในวันที่ 2 ถึง
8 พ.ย.
อนึ่งการสมโภชนักบุญทั้งหลายวันตรงคือวันที่
1 แต่เลื่อนไปในวันอาทิตย์ที่ 3 ฉะนั้นตั้งแต่มิสซาเย็นวันเสาร์ที่ 2จนถึงเย็นวันอาทิตย์ที่
3 เป็นมิสซาสมโภชนักบุญทั้งหลาย
ขอพระอวยพร
คุณพ่อชาญชัย ทิวไผ่งาม
บอกกล่าว
เล่าเรื่อง
“ให้รักเป็นสะพาน อย่าให้เราเป็นกำแพง”
“I invite you not to build walls but bridges”… POPE FRANCIS.
ดูเหมือนธีมการเสด็จเยี่ยมประเทศไทยของพระสันตะปาปาฟรังซิสครั้งนี้ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องก็ได้ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง
ๆ และหนึ่งในช่องทางนั้นก็คือผ่านบทเพลงแห่งการต้อนรับ และเป็นบทเพลงทางการประจำการเสด็จเยี่ยมฯครั้งนี้
“ให้รักเป็นสะพาน” ชื่อบทเพลงทางการบทนี้ ซึ่งมาจากประโยคข้างต้นที่พ่อได้นำมา ซึ่งเป็นถ้อยคำที่พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงตรัสไว้
“พ่อเชื้อเชิญเราในการสร้างสะพานต่อกันไม่ใช่การสร้างกำแพงปิดกั้นกัน”
ถ้อยคำนี้เองนำมาสู่บทเพลงบทเพลงนี้ ให้รักเป็นสะพาน
พ่อคิดว่าการมาของพระสันตะปาปาครั้งนี้ได้สร้างสะพานที่เชื่อมโยงพระเจ้ามายังมนุษย์ให้ใกล้ขึ้นผ่านทางการมาของพระสันตะปาปาซึ่งเป็นผู้นำของพระศาสนจักรบนโลกนี้
การมาของพระสันตะปาปาน่าจะเป็นโอกาสเปิดใจของเราแต่ละคนในการสร้างสะพานความรักเชื่อมโยงไปถึงคนอื่น
มากกว่าจะสร้างกำแพงใส่กันซึ่งไม่มีประโยชน์อันใด
และกำแพงที่สำคัญที่สุดก็คือกำแพงแห่งความเป็นตัวตนของเราที่ขวางกั้นคนอื่น
ให้รักเป็นสะพาน อย่าให้เราเป็นกำแพงน่าจะเป็นถ้อยคำที่เหมาะสม
อย่าทำตัวเราให้เป็นกำแพงหรืออุปสรรคที่จะทำให้คนอื่นได้พบพระในชีวิตของเราหรือพบพระจากสถานการณ์ต่างๆ
บางทีเรื่องเล็กๆง่ายๆที่เราทำต่อคนอื่นก็เป็นสะพานที่จะทำให้คนอื่นสัมผัสพระได้ เหมือนชีวิตของพระสันตะปาปาฟรังซิสพ่อเชื่อว่าพี่น้องเห็นภาพเสมอๆเวลาที่
คนพิการก็ดี คนด้อยโอกาส
เด็กๆที่ได้สัมผัสพระสันตะปาปาทุกคนร้องไห้ด้วยความปิติยินดี
ทุกคนมีพลังในการดำเนินชีวิตต่อไปอย่างเหลือเชื่อ
เพราะพระองค์เป็นสะพานที่นำความรักของพระมาสู่คนอื่นอย่างแท้จริง
ให้เราแต่ละคนเป็นสะพานความรักที่จะเชื่อมโยงความรักของพระไปสู่บุคคลอื่นมากขึ้น
ขอให้รักเป็นสะพานเชื่อมชีวิตของเรากับคนอื่นเสมอ
มากกว่าทำตัวเราให้เป็นกำแพงปิดกั้นคนอื่น
ปลัดวัดสาทร